วินาทีนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงจากประเทศเกาหลีใต้ขยายอิทธิพลเข้ามาในประเทศไทยมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นละคร รายการวาไรตี้ รวมไปถึงกลุ่มศิลปินที่เป็นไอดอลต่างก็ขยายฐานผู้บริโภคออกไปอย่างครอบคลุม และฐานผู้บริโภคเหล่านั้นก็ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ชื่นชอบนักแสดงหรือศิลปินที่ตนเองถูกใจ อย่างที่เรียกกันติดปากว่า “ด้อม” และในครั้งนี้เราก็ยกเอาเรื่องราวของ ด้อมอาร์มมี่ ซึ่งน่าจะโดนใจผู้ชื่นชอบกลุ่มศิลปินวง BTS มาพูดคุยกัน โดยปัจจุบัน เพลง bts ก็ติดอันดับความนิยมในระดับโลกไปแล้ว
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://static.toiimg.com/photo/msid-83529705/83529705.jpg
กว่าวง BTS จะมีชื่อเสียงบนพื้นที่สื่อระดับโลก
ชื่อเสียงศิลปิน Boy Brand จากเกาหลีใต้อย่างวง BTS หรือ บังทันโซยอนดัน เป็นกลุ่มศิลปินเกาหลีที่ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คน คือ RM (คิม นัมจุน), JIN (คิม ซอกจิน), SUGAR (มิน ยุนกิ), J-HOPE (ซอง โฮซอก), JIMIN (ปาร์ค จีมิน), V (คิม แท ฮยอง), JUNGKOOK (จอน จองกุก) สังกัดค่าย Big Hit Entertainment เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2013 พร้อมด้วยซิงเกิล No More Dream ซึ่งมีแฟนคลับที่เรียกว่า ARMY เป็นฐานกำลังใจที่คอยผลักดันให้ศิลปินกลุ่มนี้ค่อย ๆ มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมไกลถึงแฟนเพลงในกลุ่มประเทศอเมริกาอีกด้วย
หากใครที่ติดตามพัฒนาการของศิลปินกลุ่มนี้มาตั้งแต่แรกจะทราบว่าค่อนข้างล้มลุกคลุกคลานพอสมควร เพราะมีอุปสรรคตั้งแต่การรวบรวมสมาชิกในวงที่ไม่เป็นไปตามคาดหมาย การนำเสนอผลงานเพลงที่แตกต่างให้เป็นที่ยอมรับ อีกทั้งเป็นกลุ่มศิลปินที่อยู่ภายใต้สังกัดขนาดเล็กจนจะล้มละลาย จึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นกลุ่มศิลปินมากความสามารถแม้จะไม่ได้มาจากค่ายใหญ่ ซึ่งความพยายามนั้นก็สำเร็จและถูกการันตีโดยการได้ขึ้นรับรางวัลสาขาต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องแล้วเริ่มฉายแสงออกมาในที่สุด
การการันตีความสำเร็จของวง BTS ว่าขึ้นเป็นระดับโลกแล้วคือการเป็นกลุ่มศิลปินภาคพื้นเอเชียกลุ่มแรกที่มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัลในงาน American Music Awards เมื่อปลายปี 2021 ที่เพิ่งผ่านมานี้ โดยรางวัลที่คว้ามาได้มี 3 รางวัล คือ Favorite Pop Song ที่มาจาก เพลง bts ในชื่อว่า Butter, รางวัล Favorite Duo or Group และรางวัล Artist of the Year ทั้ง 3 รางวัลที่ได้รับมาถือว่าเป็นรางวัลของความพยายามที่พวกเขาฝ่าฟันกันมาอย่างหนักหน่วงเป็นเวลากว่า 9 ปีเห็นจะได้ เรียกได้ว่าข้ามขีดจำกัดที่กลุ่มศิลปินเกาหลีหลาย ๆ กลุ่มเคยพยายามจะข้ามไปได้อย่างสวยงาม
การทำเพลงที่กล้าแตกต่าง
ภาพจำเดิม ๆ เกี่ยวกับศิลปินเกาหลีที่มีลักษณะเป็น Boy Brand หรือ Girl Group ส่วนใหญ่แล้วการทำเพลงออกมาก็จะมีเนื้อหาไปในเชิงความรัก หรือความสุขเสียมากกว่า แต่สำหรับการทำ เพลง bts จะมุ่งเน้นการตีแผ่ความจริงบางอย่างที่ปรากฏอยู่ในสังคม ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปินที่กล้าหยิบยกประเด็นบางอย่างที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าพูดถึงมาทำเป็นเพลงของพวกเขา โดยเราจะลองยกตัวอย่างเพลงที่น่าสนใจของวง BTS มาพูดคุยกัน ได้แก่
– เพลง N.O เพลงที่อยู่ในมินิอัลบั้มชุดแรกซึ่งเป็นการเปิดตัววง BTS โดยรวมของเพลงนี้จะใช้การเรียบเรียงดนตรีที่แสดงถึงความหนักแน่นและมีการต่อต้านเล็ก ๆ เนื้อหาของเพลงจะพูดถึงความกดดันของวัยรุ่นที่ถูกพ่อแม่คาดหวังในด้านการเรียน การด้อยคุณค่าของบุคคลด้วยการเลือกสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง และการแข่งขันคะแนนสอบเพื่อวัดว่าใครเหนือกว่า อีกทั้งเป็นการตั้งคำถามในมุมมองของเด็กวัยรุ่นว่าการอยู่ในกรอบที่ผู้ใหญ่ตั้งไว้จะดีจริง ๆ อย่างนั้นหรือ ?
– เพลง 21st Century Girls เป็นเพลงจังหวะสนุก ๆ ในอัลบั้ม Wings เรียบเรียงดนตรีให้คนฟังรู้สึก Enjoy ตามไปจนนึกอยากลุกขึ้นมาเต้น แต่หากพิจารณาเนื้อเพลงให้ลึกลงไปอีกขั้นก็จะพบว่าเพลงนี้เสมือนทำออกมาเพื่อปลอบใจหญิงสาวที่ไม่ได้มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองมากนัก เป็นการให้กำลังใจผู้หญิงที่กำลังถูกคนอื่นวิจารณ์รูปลักษณ์ภายนอกอย่างสนุกปาก ซึ่งเพลงนี้ก็ได้ยกเอาประเด็นการวิจารณ์รูปร่างหน้าตาของคนอื่นอันถือว่าเป็นการ Bully อย่างโจ่งแจ้งและมีผลกระทบต่อจิตใจของผู้ถูกกระทำมาใช้ทำเพลงนั่นเอง
– เพลง Tomorrow เพลงความหมายเชิงบวกในอัลบั้ม Skool Luv Affair เนื้อหาเพลงนี้จะพูดถึงการพยายามไปให้ถึงฝั่งฝันที่เราคาดหวัง ซึ่งจะเปรียบเป็นการให้กำลังใจแม้จะพบเจออุปสรรคที่ทำให้รู้สึกท้อแท้ ก็ต้องพยายามข้ามผ่านความท้อแท้เหล่านั้นไปให้ได้ ในช่วงเวลาที่รู้สึกว่าอับจนหนทางมากที่สุดมองไปทางไหนก็พบแต่ความมืดมน อาจตีความได้ว่า Tomorrow ไม่ได้สื่อถึงเช้าวันใหม่แต่อาจจะหมายถึงทางออกของปัญหาที่เราพบเจออยู่ก็เป็นได้
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://candyclover.com/wp-content/uploads/2021/05/BTS-BBMAs-2021.jpg
5 เหตุผลที่คุณต้องรักบังทัน
เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไม่วง BTS หรือที่เราเรียกว่าบังทัน ถึงได้โด่งดังเป็นพลุแตกแบบผิดหูผิดตา ทั้งที่แต่เดิมแทบจะไม่เป็นที่รู้จักบนพื้นที่สื่อขนาดใหญ่เลย นั่นก็เป็นเพราะ
– เป็นกลุ่ม Boy Brand ที่ไม่ได้มาขายความเป็นไอดอลอย่างเดียว แต่มีความเป็นศิลปินสูงและเป็นเอกลักษณ์
– สมาชิกในวงต่างมีความสามารถเฉพาะทางเป็นของตนเอง จึงสามารถผลิตผลงานออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
– การนำเสนอผลงานเพลงของวงมีความแปลกใหม่เสมอ ไม่ยึดติดแนวทางเดิม และกล้าที่จะแตกต่าง
– เป็นกลุ่มศิลปินที่มีช่องทาง Social เอาไว้สื่อสารกับแฟนคลับโดยเฉพาะ ทำให้สื่อสารกับศิลปินได้โดยตรง
– เป็นกลุ่มศิลปินที่โดนโจมตีด้านลบมาตลอด แต่ก็พิสูจน์ตัวเองจากความสามารถจนมาอยู่จุดสุงสุดได้
BTS ในนิยามที่เปลี่ยนไป
วง BTS ไม่ได้ทำเพลงในเชิงตีแผ่สังคมเท่านั้น แต่ยังมีเพลงที่ให้ความหมายในเชิงการให้กำลังใจ การปลอบใจ และการส่งความรักด้วยเช่นกัน และการทำ เพลง bts ในช่วงแรกจะอยู่ในนิยามของ Bulletproof Boy Scouts ซึ่งสื่อถึงการต่อต้านการโดนรังแก และกล้าที่จะออกนอกกรอบ แต่ในปัจจุบันก็มีการปรับเปลี่ยนนิยามไปเป็น Beyond the Scene ที่ต้องการสื่อถึงการมีพลังเพื่อจะทำตามความฝันและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ถึงอย่างนั้นเนื้อหาเพลงของวง BTS ก็ยังคงตีแผ่สังคมเช่นเคยแต่เป็นมุมมองที่เติบโตขึ้นตามประสบการณ์ของพวกเขาพบมานั่นเอง
Credit By
www.petcutety.com
www.petcutety.com
www.comshareasale.com
www.rest-review.com
www.gomalwarebytes.com
www.ozarksfirst.biz
www.mixhistorys.com
www.comthehill.com
www.comperaichi.com