หากคุณเป็นคนที่ชอบฟังเพลงเพราะๆ วันนี้เราขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ เพลง ไม่เคย เพลงสุดแสนไพเราะจากวง 25 hours ที่มีเนื้อหาลึกซึ้งกินใจอย่างการนำภาพเรื่องราวในอดีตอันน่าจดจำจากหลายๆ คนมารวมกันเป็น MV ที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ต้องยอมรับเลยว่าขนาดแค่เปิดเพลงก็รู้สึกเศร้าแบบสุดๆ แต่พอยิ่งได้ดู MV เพลงไม่เคยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เข้าถึงความรู้สึกของบทเพลงได้อย่างครบอารมณ์จริงๆ ค่ะ หากใครอยากรู้กันแล้วว่า รูปแบบ MV เพลงไม่เคย ที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้ จะมีความพิเศษที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง ต้องลองมาอ่านไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ

ไขเรื่องราวดีๆ ในฉาก MV “เพลง ไม่เคย” สุดประทับใจ
สำหรับในฉากเริ่มแรกเราจะเห็นได้ว่ามีผู้ชายเสื้อขาวคนหนึ่งกำลังนอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียง และเหมือนกำลังเฝ้าคอยโทรศัพท์อยู่อย่างคาดหวัง หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปตอนที่ผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนมองภาพแบบเหงาๆ อยู่คนเดียว แล้วภาพก็ตัดไปยังฉากที่หญิงสาวนั่งดริ้งก์กำลังนั่งอยู่นอกร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอกำลังจดจ่ออยู่กับกระดาษในมือ แสดงว่าสิ่งที่ MV เพลง ไม่เคย ต้องการจะสื่ออาจหมายถึงว่า ในความจริงแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากมาทำงานนี้ แต่เธอจำเป็นต้องทำ เพราะเธอเองก็มีหนี้ที่ต้องชดใช้อยู่ไม่น้อย
ส่วนฉากที่น่าสนใจต่อมา คงเป็นฉากที่ผู้ชายในแท็กซี่กำลังนั่งมองรูปถ่ายของลูกๆ อยู่บนรถแท็กซี่แบบเศร้าๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วฉากนี้ที่เขาต้องการจะสื่อถึงอาจมีความหมายว่า การที่เรายอมทำงานหนัก ๆ บางทีก็ทำเพื่อให้ลูกๆ ได้อยู่แบบสุขสบายนั่นเอง ในฉากต่อมาเขาก็นำเสนอเกี่ยวกับภาพครอบครัวชาวจีนครอบครัวหนึ่งที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่สุสานในวันเชงเม้งกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และมีเด็กๆ กำลังวิ่งเล่นกันอยู่สนุกสนาน แสดงว่าฉากนี้ต้องการสื่อว่า ความเป็นจริงแล้วการที่บรรพบุรุษที่ได้ตายจากไปแล้ว เมื่อถึงวันเช้งเม้งในทุกๆ ปีก็เหมือนเป็นการรวมตัวของบรรดาญาติๆ กันแบบพร้อมเพียง และนั่งกินข้าวล้อมวงต่อหน้าสุสานของบรรพบุรุษกันแบบสนุกสนาน และย้อนนึกถึงวันวานในอดีตที่คนๆ นั้นยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งแม้เขาคนนั้นจะได้ตายจากไปนานแล้ว แต่ความทรงจำดีๆ ก็ยังอยู่ในความทรงจำของเราไม่เคยเลือนหายนั่นเอง

สำหรับฉากไฮไลท์สำคัญที่ดูกี่ทีก็รู้สึกประทับใจจนน้ำตาไหลทุกครั้งนั้นก็คือ ฉากที่คุณลุงทั้ง 3 คนกำลังยืนถ่ายรูปคู่กับตึกร้างเก่าๆ พร้อมกับติดรูปถ่ายในสมัยวัยเยาว์ที่มีเด็กผู้ชาย 5 คน กำลังยืนถ่ายรูปกันแบบมีความสุข ซึ่งสิ่งนี้อาจแปลความหมายได้ว่า ถึงแม้เพื่อนของพวกเขาทั้ง 2 คนจะตายจากไปแล้ว แต่ความรู้สึกดีๆ และภาพความทรงจำเก่าๆ นั้นก็ยังคงอยู่ในใจของพวกเขาไปตลอดกาล และไม่อาจมีใครมาแทนที่ได้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงไหนก็ตาม

อีกหนึ่งฉากที่สื่อความหมายออกมาได้ดีไม่แพ้กันนั้นก็คือ ฉากที่ผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนรถไฟโดยสาร เพื่อออกเดินทางไปยังต่างแดนที่ห่างไกลบ้าน แต่ในมือของเขายังคงถือข้าวกล่องที่คุณแม่ทำไว้ให้ พร้อมกับมองออกไปที่หน้าต่างแบบเศร้าๆ ซึ่งฉากนี้อาจต้องการสื่อถึงว่า บางทีการที่คนเราต้องไกลห่างจากคนที่รักกัน เพื่อออกมาทำงานหรือมาเรียนที่ต่างแดน อาจทำให้เราคิดถึงครอบครัวหรือคนสำคัญที่เราจากมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งความคิดถึงเหล่านั้นล้วนเกิดจากความรักและความผูกพันธ์ที่เรามีให้กันมานั่นเอง แต่ต้องยอมรับว่าฉากนี้เขาทำออกมาได้ลึกซึ้งกินใจสุดๆ หากใครที่อยู่ต่างแดนและห่างไกลจากครอบครัวน่าจะเข้าใจเป็นอย่างดี

ฉากความทรงจำที่งดงามในวัยมัธยม จัดเป็นฉากที่ดีและสื่อความหมายได้แบบตรงตัวว่า ในช่วงมัธยมเราอาจมีความทรงจำที่ดีร่วมกับเพื่อนมากมาย และเมื่อจบการศึกษากันไปแล้ว ต่างคนก็ต่างแยกย้ายออกไปทำในสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน และยิ่งย้อนกลับมาดูความทรงจำในเฟรนชิฟ ก็ยิ่งทำให้อดคิดถึงความทรงจำเก่าๆ ในวัยเด็กไม่ได้เลย แต่แน่นอนว่าถึงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน แต่ถ้าสักวันหนึ่งเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เชื่อว่าความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมตลอดไป

และฉากสำคัญที่เราอยากให้ทุกคนได้ดูมากๆ นั้นก็คือ ฉากที่วัยรุ่นกำลังพ่นสีอยู่บนพื้นถนน แต่การพ่นสีในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่การพ่นสีทั่วไป เพราะวัยรุ่นกลุ่มนี้กำลังพ่นสีเป็นรูปร่างคล้ายกับคน ซึ่งมันอาจสื่อความหมายได้ว่า เพื่อนของพวกเขาเหล่านี้ได้ตายจากไปเพราะอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็มีความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของเพื่อนที่ไม่มีวันย้อนกลับมา ดังนั้นในทุกๆ ปีพวกเขาจึงมาไว้อาลัยให้กับเพื่อนของพวกเขาด้วยการพ่นสีสเปร์ยในจุดที่เพื่อนได้จากไปนั่นเอง เรียกว่ามิตรภาพของเพื่อนกลุ่มนี้เป็นสิ่งที่คงอยู่แบบถาวรและไม่มีวันจางหาย แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปไหนก็ตาม
สำหรับฉากจบสุดท้ายของ MV เพลงไม่เคย เป็นฉากของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนอนรอข้อความในโทรศัพท์อยู่อย่างใจจดใจจ่อ แสดงว่าก่อนหน้านั้นผู้ชายเสื้อขาวในตอนแรกได้ส่งข้อความมาหาผู้หญิงคนนี้แล้วก็เฝ้ามองโทรศัพท์ว่าผู้หญิงจะตอบไหม สรุปเมื่อข้อความส่งไปถึงผู้หญิง เธอก็เกิดอาการเขินจนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พร้อมกับพิมพ์ความข้อความตอบกลับผู้ชายเสื้อขาวกลับไป ซึ่งฉากนี้เราอาจแปลได้ว่าเขาน่าจะแอบชอบกันอยู่ หรือบางทีเขาอาจเพิ่งคบกันก็ได้นะคะ แล้วแต่ว่าเราจะตีความหมายไปในทิศทางไหน
สรุปแล้วเรื่องราวทั้งหมดของ MV เพลงไม่เคย ต้องการจะสื่อถึงว่า คนเราเมื่อจากกันไปแล้ว เรามักจะคิดถึงช่วงเวลาที่สวยงามในตอนที่เรายังอยู่ด้วยกัน และใน MV บางฉากยังสะท้อนให้เราได้เห็นในหลายๆ มุมมองอีกว่า ถึงแม้เราไม่อาจจะย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้แล้ว แต่เราก็ควรเรียนรู้จากมันและก้าวผ่านมันไปให้ได้ และต่อให้เราจะคิดถึงมากแค่ไหนก็ตาม แต่เราก็ไม่ควรจมปักอยู่กับความเศร้าโศกนานจนเกินไป ดังนั้นแล้วเราควรออกมาใช้ชีวิตให้มีความสุข และทำทุกนาทีต่อจากนี้ให้คุ้มค่า เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายในภายหลังนั่นเองค่ะ
อ้างอิง